บนเกาะมาดากัสการ์มีลีเมอร์อยู่หลากหลายประเภท แต่ที่เป็นที่รู้จักมาก คือ ลีเมอร์หางแหวน หรือ ลีเมอร์หางปล้อง (Ring-tailed Lemur) เด็ก ๆ ที่ได้รับชมภาพยนต์การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องมาดากัสการ์ น่าจะรู้จักเจ้าตัวนี้กันดีจากบทบาทกวน ๆ ของเจ้าลีเมอร์ที่ชื่อ กษัตริย์จูเลียสที่แปด (King Julius XIII)
นอกจากนี้ ยังมี แบมบูลีเมอร์ (Bamboo Lemur) เป็นลีเมอร์ที่กินไผ่เป็นอาหาร ลีเมอร์แคระ (Dwarf Lemur) เป็นลีเมอร์ขนาดเล็ก กินผลไม้เป็นอาหาร พบได้ทั่วไปบนเกาะ ลีเมอร์ ที่ตัวเล็กสุดคือ ลีเมอร์หนู (Mouse Lemur) สัตว์ชนิดนี้อาจจะเป็นสัตว์ประเภทลิงที่ตัวเล็กที่สุดในโลก

ส่วนลีเมอร์ที่ตัวใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า Indri มีขนสีขาว และดำ ซึ่งขึ้นชื่อว่า เป็นสัตว์ที่มีเสียงโหยหวนฟังดูน่ากลัวที่สุดในบรรดาลีเมอร์ บ้างว่าเสียงของลีเมอร์ Indri นั้นฟังคล้ายเสียงสื่อสารของปลาวาฬ ที่ดังก้อง และยานคาง ตัว Aye-aye (ออกเสียงว่า ไอ๋-ไอ๋) เป็นลีเมอร์ชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่ออกจะมีชื่อเสียงโด่งดังในความแปลกของรูปลักษณ์ ด้วยหูที่กางโตเหมือนค้างคาว ฟันคล้ายหนู มีนิ้วที่ยาวและลีบติดกระดูก บางคนว่า แลคล้ายสัตว์ประหลาดที่หลุดมาจากโลกการ์ตูน ผู้เชี่ยวชาญบางท่านคิดว่า ไพรเมทแบบตัวลีเมอร์นี้ยังมีอีกหลายสายพันธุ์รอให้ค้นพบอีกบนเกาะมาดากัสการ์

นอกจากลีเมอร์แล้ว มาดากัสการ์ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของ กิ้งก่า Brookesia สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กที่สุดในโลก มีถิ่นกำเนิดบนเกาะมาดากัสการ์เท่านั้น มันมีลำตัวยาวสูงสุดเพียง 30 มิลลิเมตร พบได้บริเวณกองใบไม้ที่ทับถมบนพื้น ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมัน ด้วยเหตุนี้มันจึงมีอีกชื่อหนึ่งคือ กิ้งก่าใบไม้ หากถูกจู่โจม กิ้งก่า Brookeasia จะแกล้งตาย โดยการทำตัวแข็ง ไม่เคลื่อนไหว ทำให้มันกลมกลืนไปกับใบไม้ ช่วยให้ผู้ล่าหาตัวลำบาก
นอกจากนี้ ยังมีผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่งชื่อ Comet Moth มีความสวยงามที่หางที่สามารถยาวได้ถึง 20 เซนติเมตร และจัดว่าเป็นผีเสื้อกลางคืนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่งของเกาะมาดากัสการ์คือ เกาะมาดากัสการ์ไม่มีคางคก ซาลาแมนเดอร์ หรือตัวนิวต์ แต่กลับขึ้นชื่อว่า มีความหลากหลายของกบมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยคาดว่ามีกบมากกว่า 300 สายพันธุ์อาศัยอยู่บนเกาะ
ยกตัวอย่างกบมาดากัสการ์สักสองสามพันธุ์ กบมะเขือเทศ (Tomato Tomato) กบตัวกลมมีสีแดงสดคล้ายผลมะเขือเทศ แต่อย่าเผลอไปจับมันเข้า สีสันสดใสในธรรมชาติเป็นกลไกเตือนภัยต่อศัตรู ให้พวกมันอยู่ห่าง ๆ เพราะเจ้าของสีสวยมักจะมีสารพิษเป็นอันตราย
สำหรับกบมะเขือเทศมันสามารถขับเมือกเหนียว ๆ ออกมาเป็นอาวุธป้องกันตัว เมือกนี้เป็นอันตรายต่อคน และสัตว์ ถึงอย่างไรก็ตาม กบมะเขือเทศก็เคยเป็นที่นิยมในหมู่นักเลี้ยงสัตว์แปลก ๆ มาแล้วครั้งหนึ่งในประเทศไทย กบมาดากัสการ์อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ คือ กบแมนเตลลา (Mantella frog) ที่มีหลากหลายสี หลากหลายสายพันธุ์ และเป็นที่นิยมในหมู่นักเลี้ยงสัตว์เช่นเดียวกับกบมะเขือเทศ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงประเทศเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ไม่มีอาณาเขตติดกับพื้นทวีป แต่สรรพสัตว์ที่น่าฉงนเหล่านี้เป็นสิ่งแสดงความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางระบบนิเวศน์ของประเทศมาดากัสการ์เป็นอย่างดี

การเดินทางไปมาดากัสการ์จากประเทศไทยนั้น คุณสามารถโดยสารเครื่องบินจากสายการบินเคนยาแอร์เวย์ไปกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา และต่อเครื่องบินโดยสารจากกรุงไนโรบีไปยังกรุงอันตานานาริโว ประเทศมาดากัสการ์ได้ง่าย และสะดวกสบาย หรือสามารถโดยสารเครื่องบินจากสายการบินแอร์มาดากัสการ์ บินตรงจากกรุงเทพไปกรุงอันตานานาริโว เมืองหลวงประเทศมาดากัสการ์ได้
ช่วงเวลาดีที่สุดสำหรับการไปเที่ยวชมมาดากัสการ์ คือ เดือนพฤษภาคมและพฤศจิกายน ส่วนช่วงที่ไม่เหมาะคือ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกหนักสุด อาจมีพายุไซโคลน โดยเฉพาะทางตอนเหนือและตะวันออกของประเทศ ในเวลาเดียวกันหลายภูมิภาคมักจะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เช่นเมืองหลวงมีอากาศเย็น ในขณะที่บริเวณตอนเหนือมีอากาศร้อน โดยเฉพาะบริเวณอุทยานแห่งชาติอันดาซีเบ หรือมันตาเดียที่มีป่าฝนอุดมสมบูรณ์ มีฝนตกชุก และเป็นฝนแบบละออง โดยควรตรวจสอบสภาพอากาศของเมืองที่จะไปก่อนการเดินทางทุกครั้ง
http://www.soccersuck.com/boards/topic/903408
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น